ไม้ปูพื้น มีกี่ ประเภท คืออะไรบ้าง

ก่อนที่จะติดตั้งพื้นไม้ ภานใน เราต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ การใช้สอย และความต้องการของเราก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะใช้พื้นแบบไหนนั้นเรามาทำความรู้จักประเภทของไม้ปูพื้นกันก่อน ว่า มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติบัติแบบไหนบ้าง มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร บ้าง

พื้นไม้สำหรับงานภายใน แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ตามองค์ประกอบและกระบวนการผลิต แต่ละชนิดมีองค์ประกอบอย่างไร มีคุณสมบัติแบบไหนบ้างเรา ดูกันได้เลย

1 .พื้นไม้จริง (Solid Wood Flooring )

เป็นวัสดุที่ใช้กันมาตั้งแต่ในอดีต ตัววัสดุมีความแข็งแรง คงทน ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ผ่อนคลายและมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งไม้ที่นำมาใช้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นไม้ปูพื้น ได้แก่ ไม้สักทอง ไ ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้ตะแบก และไม้ตะเคียน

นอกจากนั้นยังมีที่นิยมใช้ไม้ปูพื้นและมีที่มีราคารองลงมา เช่น ไม้เต็ง และไม้รกฟ้าอีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้ปูพื้นนั้นส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของห้อง ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย หรือสีของไม้


2. ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood Flooring)

เป็นวัสดุที่มีผิวหน้าจะเป็นไม้จริงที่มีลวดลายสวยงามมีความหนาประมาณ 1-3 มม. โดยมีกระบวนการผลิตที่นำแผ่นไม้จริงบางๆ หลายแผ่นมาวางซ้อนทับโดยทำมุมไขว้กันไปมาเพื่อความแข็งแรง และผิวด้านบนสุดจะเป็นแผ่นไม้จริงประเภทที่เราต้องการ

3. ไม้ปาร์เกต์ (Parquet Wood Flooring)

ไม้จริง ซึ่งได้จากการตัดท่อนไม้เป็นส่วนๆ มีขนาดให้เลือกมากมายในท้องตลาด ซึ่งปาร์เกต์ทั่วไป มักจะมีขนาดหน้ากว้าง 2-4 นิ้ว ยาวไม่เกิน 8-18 นิ้ว และหนาไม่เกิน 1.8 ซม. ปาร์เกต์ชิ้นใหญ่จะมีราคาที่สูง และยังสามารถแบ่งราคาได้ตามชนิดของเนื้อไม้ โดยชนิดที่แพงที่สุดคือไม้สักและไม้มะค่า ในการปูปาร์เกต์ขั้นต้นคือพื้นต้องถูกปรับระดับให้เรียบเสียก่อน โดยพื้นชั้นล่างควรทำระบบกันซึมโดยรอบ และใช้พลาสติกปูทับพื้นดินก่อนเทคอนกรีตปรับระดับ ข้อควรระวังคือไม่ควรปูไม้พื้นปาร์เก้ต์ทับวัสดุอื่น เช่น หินแกรนิต และกระเบื้อง


4. ลามิเนต (Laminate Flooring)

เป็นวัสดุที่เกิดจากการหาวัสดุมาใช้ทดแทนไม้จริง ทำให้วัสดุประเภทนี้ประกอบไปด้วยวัสดุ แบบธรรมชาติ กับ แบบสังเคราะห์ ผสมกัน ข้อดีของพื้นลามิเนตคือเมื่อปูแล้วให้ความรู้สึกคล้ายไม้จริงแต่ราคาถูกกว่า การดูแลรักษาง่ายกว่า และการยืดหดตัวของไม้จะมีน้อยกว่าไม้จริง ข้อเสียคือหากช่างปูไม่ดีเวลาเดินผ่านจะรู้สึกยวบลงไปเหมือนพื้นพองออกมา หรือหากพื้นยังถูกปรับระดับไม่ดีหรือไม่เสมอกัน เวลาเดินไปตรงบริเวณนั้นก็จะรู้สึกได้เช่นเดียวกั


5. พื้นไม้ไวนิลหรือพื้นกระเบื้องยางลายไม้ (Vinyl Flooring Tile)

เป็นวัสดุมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และผิวหน้าทนทานต่อรอยขูดขีดได้ดี พื้นไม้ไวนิลหรือพื้นกระเบื้องยางลายไม้มีทั้งแบบที่เป็นแผ่นขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้ปูในอาคารประเภทห้างสรรพสินค้า โรงหนัง และอีกแบบคือแบบแผ่นยาวต่อกันนิยมใช้ปูในอาคารพักอาศัย ในปัจจุบันพื้นไม้ไวนิลหรือพื้นกระเบื้องยางลายไม้ได้มีการพัฒนาและออกแบบลวดลายพื้นผิว ให้มีความสวยงามมากขึ้นซึ่งให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริงเมื่อมองด้วยตาเปล่าในราคาไม่แพงมาก และทนกว่าพื้นลามิเนต รวมถึงการซ่อมบำรุงรักษาที่ไม่ยาก เมื่อมีแผ่นไหนเสียก็เปลี่ยนแค่แผ่นนั้น


6. พื้นกระเบื้องยางคลิกล็อกSPC (SPC Flooring -Stone Plastic Composite Flooring )

SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite หรือ มีชื่อเรียก ว่า "พื้นกระเบื้องยางลายไม้" ผลิตจาก แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) พลาสติก PVC และเคลือบสาร wear layer ที่มีคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่น ที่ให้คุณสมบัติแข็งแรง ทนทานโดยผิวหน้าของวัสดุ เป็นลายไม้ มีให้เลือกหลายลวดลาย เคลือบผิวชั้นบนสุดของวัสดุด้วยชั้น Wear Layer ทำหน้าที่ป้องกันรอยขูดขีด และรองด้วยโฟมมากับวัสดุเพื่อความนุ่มสบายเท้า กระเบื้องยาง SPC ติดตั้งแบบระบบคลิกล็อค สามารถปูทับพื้นผิวที่เรียบ ได้เลย โดยที่ไม่ต้องทากาว จึงหมดปัญหาเรื่องกาวเสื่อมสภาพ อีกทั้ง ยังเป็นมิตรต่อคน สัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของวัสดุปูพื้นชนิดต่างๆ